การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร
ในยุคปัจจุบัน การทำงานเก่งอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะอยู่รอดในองค์กรที่มีการแข่งขันกันตลอดเวลาได้
เพราะทุกภาระและหน้าที่ ล้วนต้องมีการติดต่อประสานงานกับตำแหน่งต่างๆ
กว่าที่จะทำงานประสบความสำเร็จได้แต่ละชิ้น ก็ต้องได้รับการสนับสนุน
และช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กรจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้
ดังนี้
1.บุคลิกภาพ (Personality) คำว่าบุคลิกภาพที่ดีไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา
ท่าทางและการแต่งกายที่ดีเท่านั้น แต่บุคลิกที่ดีต้องประกอบทั้งรูปลักษณ์ภายนอก
รวมทั้งสิ่งที่อยู่ภายใน คือ ความคิด ค่านิยม ทัศนคติ วิสัยทัศน์ อีกด้วย
ลักษณะของคนที่มีบุคลิกดีคือ รูปลักษณ์ภายนอกโดยภาพรวมต้องดูดี รู้จักกาลเทศะ
รู้จักแสดงออกเรื่องอารมณ์อย่างเหมาะสม
และสามารถสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นคนที่มีบุคลิกภาพดีพร้อมทั้งภายนอกและภายในจะเป็นคนที่มีเสน่ห์
เป็นที่รักใคร่ และเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงาน ทำให้การทำงานราบรื่นและประสบความสำเร็จได้
2.มีความอ่อนน้อมถ่อมตน (Modesty) คือการมีกิริยามารยาทสุภาพ
สงบเสงี่ยม ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่ควรถือว่าการถ่อมตน
หรือการยอมให้คนอื่นเป็นการเสียศักดิ์ศรี แต่คิดว่าจะนำมาซึ่งความรักใคร่เพราะไม่มีใครชอบคนที่ยกตนข่มท่านโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโสกว่า
หรือผู้บังคับบัญชา ฉะนั้นการทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตน ผู้อาวุโสและเจ้านายจะเอ็นดู
พร้อมจะให้ความช่วยเหลือสนับสนุนและสอนงานให้ถ้าสามารถทำตัวเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของเพื่อนร่วมงานและเจ้านายได้
ก็ถือว่าสร้างความสำเร็จในการทำงานได้เกินครึ่ง
ในขณะเดียวกันในฐานะเจ้านายการสร้างความสัมพันธ์กับลูกน้องก็ไม่ควรใช้พระเดชคือการใช้อำนาจหรือสั่งการเพียงอย่างเดียว
แต่ควรเปิดโอกาสให้ลูกน้องแสดงความคิดเห็นบ้าน
และต้องสอนงานรวมทั้งแนะนำเมื่อลูกน้องไม่เข้าใจหรือมีข้อผิดพลาดในการทำงาน
3.ความเป็นเพื่อน (Friendly) และมีน้ำใจช่วยเหลือ
( Helpful) ควรทำตัวให้สนิทสนมกับเพื่อนร่วมงาน
ให้ความเป็นกันเองวางตัวธรรมดา ไม่ควรถือตัวหรือหยิ่งจองหอง ไม่ว่าฐานะทางเศรษฐกิจ
หรือฐานะทางสังคมของเราจะสูงกว่าเพื่อนร่วมงานก็ตาม
แต่เมื่อทำงานร่วมกันก็ต้องถือว่ามีสถานะเท่ากัน
รวมทั้งเต็มใจช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานอย่างเต็มกำลังทั้งกายและใจ กำลังความคิด
ในลักษณะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
มีน้ำใจโอบอ้อมอารีต่อเพื่อนร่วมงานคนที่มีความเป็นเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี
และถ้าเป็นเจ้านายการสร้างความรู้สึกให้พนักงานเกรงกลัวเพียงอย่างเดียวจะไม่เกิดบรรยากาศที่ดีในการทำงาน
ลูกน้องจะเครียดและไม่กล้าแสดงความคิดเห็น
แต่ควรจะสร้างบรรยากาศให้พอเหมาะพอดีระหว่างความเคารพยำเกรง กับการกล้าแสดงออก
กล้าโต้แย้งหรือแสดงความคิดเห็น
4.มีความกระตือรือร้น (Enthusiasm) และความรับผิดชอบ
(Responsibility) คือมีความกระตือรือร้นและการทำงานทุกชนิด
ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถสนุกกับงาน
มีความภูมิใจในหน้าที่และงานที่ทำ ทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง
รวมทั้งรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี และเป็นคนที่รับผิดชอบต่อคำพูด
คำมั่นสัญญารักษาเวลา ทำตัวให้เป็นคนมีเกียรติ เป็นที่เชื่อถือได้ มีความซื่อตรง
สุจริตในงานที่ทำ เป็นที่มาของความสำเร็จในการทำงานทุกชนิด
ในฐานะลูกน้องก็ต้องทำงานให้เสร็จทันเวลาที่ได้รับมอบหมาย
ทำงานด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มความสามารถ
ในขณะเดียวกันถ้าเป็นเจ้านายก็ต้องรักษาคำพูด รักษาสัญญาที่ให้ไว้แก่ลูกน้อง
เช่นเรื่องของการให้โบนัส การขึ้นเงินเดือนให้รางวัลพิเศษหรือการเลื่อนตำแหน่งก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้เช่นกัน
5.มีปฏิภาณไหวพริบ (Intelligenced) และความคิดสร้างสรรค์
(Constructive) ต้องมีปฏิภาณไหวพริบที่ดีในการทำงาน
รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
จำชื่อและรายละเอียดของคนที่ต้องติดต่องานเห็นว่าให้ความสำคัญกับเขา
และถ้าผู้บังคับบัญชาระดับสูงสามารถจำชื่อและรายละเอียดเกี่ยวกับพนักงานระดับล่างได้จะยิ่งสร้างความประทับใจความชื่นชมในตัวผู้บริหารมากยิ่งขึ้น
รู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเป็นเจ้านายหน้าที่หลักอีกประการหนึ่งก็คือต้องสามารถช่วยลูกน้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เสมอ
ที่สำคัญต้องมีความคิดแปลกใหม่
เป็นความคิดในทางที่ดีเพื่อสร้างความสำเร็จและความเจริญก้าวหน้าในการทำงานและองค์กรโดยรวม
คนที่มีความคิดแปลกใหม่จะมีคุณสมบัติโดดเด่นในที่ทำงานและก้าวหน้าในด้านหน้าที่การงานได้ไม่ยาก
6.มีความขยันขันแข็ง (Diligent) และมีความพยายาม
(Attempt) คือการขยันทำงานตามหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
ต้องมีความเพียร ความพยายาม ฝึกฝน การเรียนรู้เพื่อการทำงานที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม รู้จักปรับปรุงตนเอง
เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพราะปัจจุบันความรู้และเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
คนที่เรียนรู้ ปรับตัวพัฒนาตนเองอยู่เสมอเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จได้
ฉะนั้นคนที่ขยันขันแข็ง มีความพยายามจะเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงาน
และกลายเป็นคนโปรดของเจ้านายได้
7.มีความอดทน (Patient) อดทนต่อความเหนื่อยยาก
ความลำบากในการทำงาน เพราะความสำเร็จทุกอย่างไม่เคยได้มาโดยง่าย แต่ต้องมีความอดทน
ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และไม่กลัวความล้มเหลว ทั้งอุปสรรคในการทำงาน
และอุปสรรคในการสร้างความสัมพันธ์ในที่ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเด็กใหม่
หรือคนใหม่ในองค์กร มักจะถูกตั้งข้อรังเกียจหรือตั้งกำแพงจากเพื่อนร่วมงานดังกล่าว
และต้องทำตัวให้เป็นที่ยอมรับโดยใช้เวลาไม่มาก
8.ให้ความเคารพนับถือ (Respect) และรู้จักแสดงความยินดีหรือสรรเสริญผู้อื่นด้วยความจริงใจ
การสร้างความสัมพันธ์ในที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานที่ดีต้องไม่ขัดเขินในการแสดงความยินดีกับผู้ที่ควรได้รับการยกย่อง
เช่น เพื่อนร่วมงานที่เป็นพนักงานดีเด่น สร้างชื่อเสียงให้องค์กร
นอกจากนี้ควรเคารพนับถือในความอาวุโส ตำแหน่งหรือผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า
เพราะวัฒนธรรมองค์กรของการทำงานกับคนไทยและคนเอเชียคือ การให้ความสำคัญกับผู้อาวุโสผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่านั่นเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยู่ในฐานะเจ้านายต้องรู้จักการชมเชยลูกน้องเมื่อทำงานดี
ทำงานสำเร็จ
เพราะคำชมและการยอมรับในผลงานของเจ้านายบางครั้งมีค่าแก่พนักงานมากกว่าการขึ้นเงินเดือนด้วยซ้ำ
เรียบเรียงข้อมูลโดย ต้นสนคู่
ที่มา http://iss.nectec.or.th/hrmag/showpage.php?vol=16&sub=3&id=0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น