วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

สุนทรียะของการบริหาร

เป็นธรรมชาติของมนุษย์นะครับ ที่จะเลือกให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองเห็นชัดมากกว่าสิ่งที่เห็นไม่ชัด โดยเฉพาะเมื่อเป็นของที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา ธรรมชาติข้อนี้จะยิ่งเด่นชัด หรือเป็นที่มาของเส้นผมบังภูเขา แต่แท้จริงสิ่งที่เรามองไม่เห็น หรือมองเห็นไม่ชัดที่เหมือนจะเป็นแค่ตัวประกอบก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

                การใช้แนวทางการในบริหาร ผู้จัดการทุกระดับของบริษัทจะมีส่วนร่วมในการวางแผนและปฏิบัติตามแผนเชิงกลยุทธ์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ พฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ เพราะฉะนั้นการประเมินอย่างแม่นยำ และถูกต้องก็จะช่วยเอาเส้นผมที่บังภูเขาออกไปได้ สุนทรียะของการบริหารอยู่ตรงที่ว่ากลยุทธ์ที่สร้างนั้นส่งผลกระทบจากต่อการประกอบการของบริษัท ทั้งทางด้านการเงิน และทางด้านบุคคลมากน้อยเพียงใด ผลกระทบด้านพฤติกรรมของการบริหารเชิงกลยุทธ์หลายอย่างจะสามารถนำมาปรับปรุงความมั่งคั่งของกิจการได้หลายๆทาง ดังนี้
       1. กิจกรรมการจัดสร้างกลยุทธ์เพิ่มพูนกำลังความสามารถของบริษัทในการป้องกันปัญหา
       2. การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ด้วยกลุ่มบุคคล ที่แนวโน้มที่จะได้มาจากทางเลือกที่ดีที่สุดที่มีอยู่ เพราะกลุ่มบุคคลจะสามารถกำหนดกลยุทธ์ที่ดีได้ และสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าโดยมีพื้นฐานมาจากกลุ่มสมาชิกที่มีชำนาญเฉพาะด้าน
       3. การมีส่วนร่วมของพนักงานในการจัดสร้างกลยุทธ์ทำให้พนักงานมีความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างผลลัพธ์ที่ออกมา กับรางวัลตอบแทนในทุกๆแผนกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจที่ดี
       4. ช่องว่างและกิจกรรมที่เหลื่อมล้ำ ระหว่างบุคคล และกลุ่มจะน้อยลง เพราะการมีส่วนร่วมในการจัดสร้างกลยุทธ์ทำให้ทุกคนเข้าใจถึงบทบาทที่แตกต่างกันไปอย่างชัดเจน
       5. การต่อต้านการเปลี่ยนแปลงจะลดน้อยลง เพราะการมีส่วนร่วมในการจัดสร้างกลยุทธ์จะทำให้ทุกคนพอใจในการตัดสินใจของตัวเอง และมีแนวโน้มที่จะยอมรับการตัดสินใจนั้น

สุนทรียะของการบริหาร

เมื่อได้รับประโยชน์จากการวางแผน และสร้างการบริหารเชิงกลยุทธ์แล้วสิ่งที่ตามมาอาจสร้างผลกระทบต่องานได้ อาทิ การสูญเสียเวลาการทำงานปกติ หรือผู้มีส่วนร่วมในการวางแผนรู้สึกว่าเพิ่มภาระงาน เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลลัพธ์เชิงลบในการจัดการสร้างกลยุทธ์ผู้บริการควรระมัดระวังในเรื่องต่างๆ ดังนี้
       1. ให้ข้อมูล และจัดให้มีการฝึกอบรมผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำกลยุทธ์ และเพื่อป้องกันเรื่องเวลาที่จะส่งผลกระทบต่องานประจำให้น้อยที่สุด โดยจัดตารางเวลางานหน้าที่ของตน เพื่อให้มีเวลาสำหรับกิจกรรมเชิงกลยุทธ์ได
       2. ให้ผู้ทีมผู้ทำกลยุทธ์มีส่วนร่วมในการวางแผนกลยุทธ์ และฝึกฝนให้มีความรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติงานทั้งของตนเอง และผู้ใต้บังคับบัญชา
       3.  ผู้จัดการเชิงกลยุทธ์ต้องได้รับการฝึกฝนในการคาดการณ์ และสามารถตอบสนองต่อความผิดหวังของผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีส่วนร่วมในผลลัพธ์ที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เช่น ผู้ใต้บังคับบัญชาอาจคาดหวังถึงการมีส่วนร่วมในการจัดสร้างกลยุทธ์ แม้ว่าจะมีส่วนร่วมในส่วนที่ไม่สำคัญก็ตาม เพื่อทำให้เกิดทั้งการยอมรับข้อเสนอของพวกเขา และได้รับรางวัลตอบแทนมากขึ้น