วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

ทางแยกของการกำหนดกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ





          นักการตลาดคงเคยได้ยินโมเดล  Generic  Strategies ของ Michel E.Porter โดยต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค และความผันผวนของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจหลายทำให้ครั้งก็ทำให้ธุรกิจของเราผันผวนได้โมเดลทางเลือกกลยุทธ์ของ Porter นั้นโดยพื้นฐานจะประกอบไปด้วย


          1. กลยุทธ์ด้านการเป็นผู้นำด้านต้นทุน (Cost-Leadership Strategy) ซึ่งจะกำหนดและควบคุมต้นทุนให้ต่ำกว่าคู่แข่งขัน เพื่อนำเสนอสินค้าที่มีความคุ้มค่ากว่าให้ตลาด โดยส่วนใหญ่จะสามารถทำกำไรได้ และมักเป็นตลาดผู้บริโถคขนาดใหญ่


          2. กลยุทธ์การสร้างความแตกต่างในสินค้า และบริการ (Differentiation Strategy) มีจุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอแบบที่ไม่เหมือนใคร (Unique Offering) โดยที่คุณค่าของสินค้า และบริการนั้นยังตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ซึ่งกลยุทธ์นี้เป็นที่สนใจของนักการตลาดในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก


3. กลยุทธ์การมุ่งจุดสนใจ (Focus Strategy) เป็นการจับตลาดเฉพาะตลาด Niche Market เหมาะกับตลาดขนาดเล็กๆ ซึ่งลักษณะพิเศษของกลยุทธ์นี้ คือ จะไม่สามารถใช้กลยุทธ์นี้เดี่ยวๆได้ แต่ต้องผสมผสานทางเลือกของ Cost Leadership และ Differentiation เป็นที่มาของกลยุทธ์ทางเลือกที่ว่า Cost Focus และ Differentiation Focus ซึ่งแยกย่อยให้เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ของแบรนด์



4. กลยุทธ์ Cost Focus เป็นการตัดทอนต้นทุนการดำเนินงานที่ไม่จำเป็นออก เพื่อสร้างความได้เปรียบของการแข่งขันอาจต้องเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องเหล่านี้

  • พยายามลงทุนในเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ต้นทุนของธุรกิจ  ต่ำลงได้

  • สร้างระบบโลจิสติกส์ อันเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ
  • หาฐานการการผลิตที่ใช้ต้นทุนต่ำ ทั้งทางด้าน แรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงหนทางที่จะสร้างความยั่งยืน ผ่านการลดต้นทุนให้ต่ำกว่าคู่แข่งขัน แต่อย่าลดคุณภาพลงจนลูกค้าตระหนักได้ทัน
 
ทางด้านกลยุทธ์สร้างความแตกต่างในสินค้า และบริการ (Differentiation Strategies) มีข้อคิดที่นักการตลาดต้องพึงระลึกไว้ว่า
  • แบรนด์จำเป็นต้องมีการวิจัยค้นคว้า เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์รวมถึงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมออกสู่ตลาด
  • วามสามารถด้านการส่งมอบสินค้าออกสู่ตลาดที่มีคุณภาพเหนือกว่าคู่แข่งขัน

  • ความแตกต่างต้องแปรเปลี่ยนออกมาเป็นยอดขายได้ โดยต้องอาศัยความเข้าใจของตลาดต่อคุณค่าที่แตกต่าง
สำหรับการสร้างกลยุทธ์มุ่งจุดสนใจ (Niche Market) จำเป็นอย่างยิ่งที่แยกแยะให้ออกว่าต้องการเป็นผู้นำในตลาดไหน ไม่ว่าด้านต้นทุน หรือความแตกต่าง ทว่าแบรนด์ต้องเข้าใจความต้องการเฉพาะของ Target Market นั้นเป็นอย่างดีและลึกซึ้งกว่าคู่แข่งขันอื่นๆ ในตลาด การดำเนินกลยุทธ์สำหรับตลาด Niche นั้น จำเป้นอย่างยิ่งที่นักการตลาดจะต้องหา Sweet Spots หรือจุดที่เป็นความต้องการเฉพาะของตลาดๆนั้น ให้เจอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น